วิกฤต DRAM โลก! ผู้ผลิตยืนยัน “ไม่เพิ่มกำลังผลิต” แม้ขาดแคลนหนัก ถึงปี 2027

วิกฤต DRAM โลก! ผู้ผลิตยืนยัน “ไม่เพิ่มกำลังผลิต” แม้ขาดแคลนหนัก ถึงปี 2027

ตลาดหน่วยความจำกำลังเผชิญภาวะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ระดับโลกต่างออกมายืนยันว่า ยังไม่มีแผนขยายกำลังผลิตอย่างมีนัยสำคัญ แม้ความต้องการจะพุ่งสูงที่สุดตั้งแต่ยุค Data Center และ AI เติบโต ส่งผลให้ภาวะ “ขาดแคลนต่อเนื่อง” มีแนวโน้มลากยาวไปถึงปี 2027

บทความนี้รวบรวมข้อมูลล่าสุดจากรายงานวิเคราะห์ของสถาบันระดับโลก เช่น TrendForce, IDC และข่าวอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ เพื่อให้ผู้จัดซื้อองค์กร, ผู้บริหารด้าน IT และธุรกิจที่เกี่ยวข้องวางแผนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ทำไม DRAM ถึงอยู่ในภาวะขาดแคลนที่สุดในรอบหลายปี?

  1. การเติบโตของ AI ใช้หน่วยความจำ “มากกว่าปกติหลายสิบเท่า”

    งานด้าน AI, LLM, GPU Server และระบบ Data Center กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยงานหนึ่งชุดอาจใช้ DRAM มากกว่าพีซีทั่วไป 20–50 เท่า ทำให้ความต้องการเพิ่มพุ่งอย่างก้าวกระโดด
    ที่สำคัญ ผู้ผลิตเบนความสำคัญไปจาก DRAM ทั่วไป แล้วหันไปผลิต HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นหน่วยความจำสำหรับ AI ที่มีมูลค่าสูงกว่าและกำไรมากกว่า ทำให้กำลังผลิต DRAM สำหรับตลาดทั่วไปยิ่งลดลง

  2. Hyperscaler จองกำลังผลิตล่วงหน้าหลายปี

    ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ เช่น AWS, Google, Microsoft, Alibaba และลูกค้า AI รายใหญ่ ต่างทำสัญญาจอง DRAM/HBM ล่วงหน้า ส่งผลให้ส่วนแบ่งที่เหลือสำหรับตลาดทั่วไปลดลงอย่างต่อเนื่อง

  3. ตลาด PC / Notebook / Mobile ฟื้นตัวพร้อมกัน

    ปี 2025 ถือเป็นปีที่หลายอุตสาหกรรมกลับมามียอดขายสูงขึ้น:

    • PC ยกระดับสู่ DDR5
    • Notebook เพื่อการทำงาน/เรียนกลับมาขายดี
    • สมาร์ตโฟนระดับกลาง–สูงอัปเกรดไป LPDDR5/5X
    ความต้องการทุกกลุ่มรวมกันยิ่งเร่งให้ซัพพลายไม่พอ
  4. อุตสาหกรรมยานยนต์ก็ดึง DRAM ไปใช้

    รถยนต์ไฟฟ้า (EV), ระบบพัฒนาการขับขี่อัตโนมัติ (ADAS), กล้องและเซนเซอร์ ล้วนต้องใช้ DRAM เพิ่มขึ้นทั้งนั้น

ผู้ผลิต DRAM ยืนยัน “ยังไม่พร้อมเพิ่มกำลังผลิต”

แม้ความต้องการสูงมาก แต่ผู้ผลิต 3 รายหลัก — Samsung, SK hynix, Micron — ยังไม่เปลี่ยนแผนเพิ่มกำลังผลิต เนื่องจาก:

  1. การสร้างโรงงานใหม่ใช้เวลา 2–3 ปี

    Fab หนึ่งแห่งใช้งบลงทุนมหาศาลระดับแสนล้านบาท และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 24–36 เดือนก่อนเริ่มผลิตได้จริง

  2. กลยุทธ์ธุรกิจเน้นสินค้ามาร์จิ้นสูง (HBM)

    HBM มีราคาต่อชิปสูงกว่า DRAM หลายเท่า การลงทุนเพิ่ม HBM จึง “คุ้มกว่า” สำหรับผู้ผลิต

  3. ความผันผวนของตลาดทำให้ไม่กล้าเร่งลงทุน

    ในอดีต เมื่อผู้ผลิตเพิ่มกำลังผลิตมากเกินไป ราคาหน่วยความจำเคย “ดิ่งแรง” หลายรอบ จึงทำให้ผู้ผลิตระมัดระวังมากขึ้น

    ผลลัพธ์คือซัพพลาย DRAM ต่ำกว่าดีมานด์ และยังคงอยู่ในภาวะขาดแคลนต่อเนื่อง

แนวโน้มราคา DRAM ปี 2025–2027: ขาขึ้นต่อเนื่อง

ตามรายงานตลาดล่าสุด:

  • PC DRAM (DDR5): มีการปรับขึ้น +25–30%
  • Server DRAM: แนวโน้มเพิ่ม +28–33%
  • Mobile DRAM (LPDDR5/5X): เพิ่มขึ้นตามดีมานด์ AI
  • ราคาเซิร์ฟเวอร์โดยรวม: อาจเพิ่มขึ้นอีก 5–7% เนื่องจากต้นทุน DRAM และ NAND สูงขึ้น
  • มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาจะยังทรงตัวสูงหรือปรับขึ้นอีกจนถึง ปี 2027

ผลกระทบสำคัญต่อองค์กรในไทย

  • งบประมาณด้าน Hardware ต้องปรับเพิ่ม

    โดยเฉพาะ Server, Workstation, Notebook และระบบ Storage ที่ต้องใช้ DDR5 / RDIMM

  • สินค้าอาจขาดตลาดบางรุ่น

    เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนและปัญหาสต็อกไม่พอ

  • ธุรกิจ SI / ผู้ค้ารายใหญ่ควรเผื่อ Margin

    ต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้นจะกระทบราคาสินค้าองค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สรุป: วิกฤต DRAM ครั้งนี้คือ “ปัญหาเชิงโครงสร้าง” ไม่ใช่เหตุการณ์ชั่วคราว

  • ดีมานด์จาก AI/Cloud พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
  • ผู้ผลิตเน้น HBM แทน DRAM
  • กำลังการผลิต DRAM เพิ่มช้า
  • ราคาและความขาดแคลนมีแนวโน้มลากยาวถึงปี 2027
หากองค์กรของคุณวางแผนจัดซื้อ Hardware ในช่วงปีนี้ ควรวิเคราะห์งบประมาณและการจัดหาให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ขอใบเสนอราคา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม